ชูวิทย์ ฉะกลับ ทนายตั้ม มวยคนละรุ่น หิวแสงหรือ จ่อรับเงิน 6 ล้านคืนจากรพ.ไปส่งให้ผบ.ตร. เตรียมให้ทนายความฟ้องกลับด้วย
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 24 มี.ค.66 ที่ซอยเฉยพ่วง เขตจตุจักร นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและนักธุรกิจ ขึ้นรถติดเครื่องขยายเสียง รณรงค์การต่อต้านนโนบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย พร้อมแจกเสื้อยืดให้กับประชาชน ก่อนแถลงข่าวชี้แจงกรณีโรงพยาบาลศิริราช เตรียมคืนเงินบริจาค 3 ล้านบาทของนายชูวิทย์ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย
ระหว่างรณรงค์การต่อต้านกัญชา นายชูวิทย์ ยืนยันว่าตนได้รับเงินมา 6 ล้านบาท แบ่งเป็นถุงละ 3 ล้านบาท 2 ถุง ซึ่งล่าสุดได้รับการติดต่อคืนเงินจากโรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ จากนี้จะไปนำเงินกลับไปมอบให้ผบ.ตร. พร้อมเปิดเผยว่าตำรวจนายใดเป็นผู้ที่นำเงินมาให้ แต่ยอมรับตัวเองไม่ทราบว่าตำรวจนายนี้ไปนำเงินมาจากใคร และฝากไปยังนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ว่าหิวแสงขนาดนั้นเลยหรือ เรามวยคนละรุ่น ตนเป็นมหาโจร ไม่ใช่ฮีโร่ เพราะสังคมไทยนั้น ฮีโร่ตายไปหมดแล้ว เหลือแต่โจรอย่างตนที่จะปราบโจรด้วยกันเอง
พร้อมกันนี้มอบหมายให้ทนายอนันตชัย ไชยเดช ฟ้องร้องทนายตั้ม ขอให้เป็นเรื่องระหว่างทนายกันเอง และจะให้ทนายตั้มเลือกว่าจะเป็นทนายประชาชนอย่างเดิมหรือทนายเซเลป ขณะที่หลานชายตนที่นำเรื่องไปเปิดเผยให้กับทนายตั้มนั้น ทราบว่าได้โทรศัพท์ติดต่อหาญาติตน พร้อมยอมรับเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตำรวจ สน.บางซื่อ แจ้งว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวของนายชูวิทย์ ยังไม่แจ้งขออนุญาตจัดกิจกรรมและการขอใช้เครื่องขยายเสียง ซึ่งเข้าข่ายตาม พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียง และ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ